"สลัม" Part 3

 


Part 3

 

..จากนั้น นูเนซได้รู้เรื่องของ "แธดเดียส วีลเลอร์" เด็กตัวน้อย  

 แธดอายุสิบสองปี อาศัยอยู่ที่ชั้นสี่ของอะพาร์ตเมนต์พริมโรสกับแม่ น้องชายสองคน พี่สาวต่างพ่อ และหลานสาว 

 มันเป็นเรื่องน่าเศร้า แม่ของเขาทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาลที่โรงพยาบาลเซนต์วินเซนต์ กะกลางคืน พ่อของแธดถูกยิงเสียชีวิตหน้าบ้านเก่าของครอบครัวเมื่อสามปีก่อน น่าจะเป็นเหยื่อของแก๊งในพื้นที่ ในอะพาร์ตเมนต์มีรูปของเขากับลูกๆ เต็มไปหมด  

 แธดเป็นเด็กดี เป็นนักเรียนที่ดีและมีพรสวรรค์ด้านศิลปะ

 พักหลังๆ มานี้ ครูของเขารายงานว่าแธดเริ่มหลับในห้องเรียน งานก็ค้างคาและล้าหลัง เขาเมินเฉยต่อเพื่อนและครอบครัว ขณะที่น้องๆ เล่นวิดีโอเกมหรือปั่นจักรยานกันเล่นที่ลานจอดรถ แธดจะขังตัวเองอยู่ในห้องเพื่อวาดรูป จากที่เคยวาดรูปสัตว์และสิ่งมีชีวิตในจินตนาการ มันค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นบางอย่างน่าหวาดกลัว—สิ่งมีชีวิตมีเขี้ยวแหลมและกรงเล็บยาว

 

เดือนก่อน ลิเดีย วีลเลอร์—แม่ของแธด—โทรแจ้งตำรวจด้วยความตื่นตระหนก ตอนเธอกลับถึงบ้านเวลาตีห้าครึ่ง แธดหายตัวไป ตำรวจสามชุดถูกส่งไปค้นหาทั่วบริเวณ พวกเขาเจอเด็กชายในอีกหนึ่งชั่วโมงให้หลัง นอนหลับสนิทอยู่ในตู้เก็บของเล็กๆ ตู้นั้น

 "ตรงข้ามกับตู้เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดใช่ไหม?" นูเนซถามอย่างหวาดๆ สังหรณ์ไม่ดีเอาเลย  

 "ใช่" เจ้าหน้าที่อีกคนขมวดคิ้ว "คุณนายรู้ได้ไง?" 

 พอถามว่าทำไมถึงทำแบบนั้น แธดตอบว่าเขาแค่ชอบที่นั่น ทุกคนคิดว่าเขานอนละเมอ แต่ตำรวจถูกเรียกไปที่อพาร์ตเมนต์ของลิเดีย วีลเลอร์ถึงสองครั้งหลังจากนั้น  

 ครั้งแรก ลิเดียเป็นคนโทรแจ้งเอง เพราะแธดเอาหัวโขกกำแพงไม่หยุด  

 ครั้งที่สอง เพื่อนบ้านเป็นคนโทรแจ้ง เพราะเห็นแธดเดินเตร็ดเตร่ไปตามทางเดินในอาคาร มือกำมีดสเต๊กปลายหยักไว้แน่น  

 ลิเดียบอกตำรวจว่าแธดแอบลงไปที่ตู้เก็บของชั้นหนึ่งบ่อยขึ้นเรื่อยๆ อาทิตย์ละสามครั้งเธอจะเจอเขานอนอยู่ตรงนั้น บนพื้นกระเบื้องที่เต็มไปด้วยฝุ่น ตอนนี้เธอกำลังหานักบำบัดให้เขาอยู่

 ครั้งต่อมา พี่สาวของเขา โรเชลล์เป็นคนโทรแจ้ง นูเนซกับรัสตี้เป็นหนึ่งในสองทีมที่ถูกส่งไปที่ตึก

 "เด็กชายอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน อายุสิบสองปี" เสียงศูนย์แจ้งเหตุดังมาตามสาย "ถูกขังอยู่ในห้องนอน มีอาวุธเป็นมีด อาจมีบุคคลที่สองอยู่ด้วย"  

 นูเนซกับรัสตี้พบรอเชลล์ หญิงสาวร่างอวบอายุราวสิบเก้าปียืนรออยู่ที่หน้าห้องพัก เด็กวัยเตาะแตะกับเด็กชายอีกสองคนยืนหลบอยู่ข้างหลังเธอ  

 “มีผู้ชายอยู่ในนั้น!” รอเชลล์ร้อง “ฉันเดินไปเรียกแธดมากินข้าวเย็น แล้วได้ยินเสียงเขาคุยกับใครก็ไม่รู้ จากนั้นก็มีเสียงผู้ชายตอบกลับมา เสียงทุ้ทต่ำมาก แล้วจู่ๆ แธดก็เริ่มตะโกนว่า ไม่! ไม่! ไม่! แล้วมีอะไรบางอย่างกระแทกกับกำแพง ฉันพยายามจะพังประตูเข้าไป แต่มันล็อกอยู่ แถมเหมือนมีอะไรบางอย่างดันขวางเอาไว้”  

 "แล้วได้ยินไหมว่าผู้ชายคนนั้นพูดอะไรกับแธด?" รัสตี้ถามอย่างใจเย็น

 รอเชลล์ส่ายหน้า "ฉันว่าฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ฉันฟังไม่ออกว่าเขาพูดอะไร แต่มันฟังดูเหมือน… เสียงเหมือน.. โอ๊ย ช่างเถอะ มันเป็นไปไม่ได้แน่"

 "เหมือนอะไร?" รัสตี้ถาม  

 "ฉันว่าเขาเสียงเหมือนพ่อเลี้ยงของฉัน แต่พ่อเลี้ยงฉันตายไปหลายปีแล้ว"  

 รัสตี้พารอเชลล์และเด็กๆ ไปที่ลิฟต์ นูเนซชักปืนออกมา เขากับเจ้าหน้าที่อีกสองคนพากันเข้าไปในอพาร์ตเมนต์  

 จากห้องหนึ่ง พวกเขาได้ยินเสียงเด็กกำลังร้องไห้  

 พวกเขาเดินเข้าใกล้ประตูที่ปิดอยู่ นูเนซและเจ้าหน้าที่คนที่สองเตรียมตัวอยู่ข้างๆ ประตู เจ้าหน้าที่ที่ตัวใหญ่ที่สุดในกลุ่มถอยไปตั้งหลักแล้ววิ่งชนประตู  

 

ปัง!  

 

ประตูเลื่อนเปิดออก มีตู้ข้างเตียงถูกวางขวางเอาไว้ นูเนซเกือบจะทำปืนหลุดมือเพราะความตกใจ กลิ่นเหม็นอับและดอกไม้แห้งโชยเข้าจมูกอย่างจัง  

 แธดน้อยนั่งอยู่บนพื้นระหว่างเตียงสองชุด เขาสวมเสื้อกล้ามและกางเกงขาสั้น มือถือมีดสเต๊กไว้ มือและขาของเขามีแผลลึกยาวจากการกรีดตัวเอง ใบหน้าของเขาบวมและน้ำมูกเต็มหน้า  

 เมื่อเห็นปืนสองกระบอกที่ชี้มาที่เขา แธดปล่อยหลุดมือแล้วร้องไห้  

 "ไม่ต้องกลัว พวกเราจะไม่ทำร้ายหนู" นูเนซได้ยินตัวเองพูด  

 ห้องนั้นสกปรก มีภาพวาดติดอยู่ตามผนังของปีศาจน่าสยดสยอง มนุษย์และสัตว์ที่ถูกทำร้าย เปลวไฟ อุปกรณ์ทรมาน พอมองดูใกล้ๆ จะเห็นว่ามันถูกวาดด้วยปากกาและเลือดของแธด  

 ทีมพยาบาลและเจ้าหน้าที่กรมสุขภาพจิตถูกเรียกตัวเข้าไป ห้องนั้นถูกตรวจค้นอย่างละเอียดเพื่อหาผู้ที่น่าสงสัย—ชายผู้มีเสียงทุ้มต่ำ 

 แต่ก็ไม่พบใคร..

 นูเนซและรัสตี้เดินเข้าไปหาแธดที่นั่งสั่นอยู่บนเตียงเข็น พยาบาลกำลังพันผ้าพันแผลที่แขนของเขา  

 "เฮ้ ตัวเล็ก" นูเนซพูดอย่างเป็นมิตร "ฉันเจ้าหน้าที่คาร์ลอส ขอถามอะไรเธอหน่อยได้ไหม"  

 แธดยักไหล่  

 "โอเค พี่สาวของเธอบอกเราว่หนูคุยกับใครบางคนในห้องนั่น บอกเราได้ไหมว่าเป็นใคร?"  

 แธดจ้องหน้าเขา  

 "เธอจะไม่เดือดร้อนหรอกนะ สบายใจได้ เราแค่อยากคุยกับเขาน่ะ แค่จะตรวจสอบให้แน่ใจว่าเขาสบายดี จะไม่จับกุมเขาหรอก" 

 "คุณจับเขาไม่ได้หรอก" แธดพูด "เขาไม่ใช่คน"

 "หืม.." นูเนซพูด "งั้นเขาเป็นผีหรือไง"  

 "เขาคือพ่อผม เขาตายไปแล้ว เขาตายแล้วและทูตสวรรค์ส่งเขาไปนรก เขามาหาผมตอนกลางคืน บอกผมว่าจะต้องทำอะไรเพื่อที่ผมและครอบครัวจะไม่ต้องไปนรกเหมือนเขาตอนพวกเราตาย"

 "แล้ว.. เขาบอกว่าต้องทำยังไงบ้างล่ะ?"  

 แธดส่ายหัว "พ่อบอกให้ผมวาดปีศาจทุกวัน และเมื่อไหร่ที่ผมคิดไม่ดี ผมต้องทำร้ายตัวเอง" 

 

ตอนนั้นหญิงสาวจากกรมสุขภาพจิตกลับมาพร้อมกับฟอร์มการกักตัวส่งให้พยาบาล พยาบาลยกเตียงเข็นขึ้นในรถพยาบาล รัสตี้อยู่คุยกับพยาบาลต่อ ส่วนนูเนซไปเริ่มเขียนรายงานของเขา ในหัวเต็มไปด้วยคำถาม  

 จนท. แอนเดอร์สันบอกว่าพวกขี้ยาเห็นคนรู้จักที่ตายไปแล้ว

 จนท. หลิวเคยคุยกับคู่หูของเขาในลิฟต์ตอนที่คู่หูตัวจริงกำลังคุยกับศูนย์แจ้งเหตุในรถตำรวจ 

 ตัวเขาเองเคยเห็นซากศพของไมเคิลฟื้นคืนชีพแล้วโจมตีเขา 

 ดอโลเรสเห็นศพของไมเคิลแขวนอยู่ในตู้เสื้อผ้าทั้งที่ไมเคิลยังไม่ตาย 

 โมเดสโตเห็นอดีตสามีของมารีโซล ทั้งที่อดีตสามีของเธออยู่ที่วอชิงตัน 

 รอเชลล์ได้ยินเสียงพ่อของแธด แธดบอกว่าพ่อที่ตายไปแล้วของเขามาหาเขา..  

 

มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกันแน่ในอะพาร์ตเม้นพริมโรส?...


**(โปรดติดตามตอนต่อไป)**

 

credit: Nickyxx (Nicky Exposito)



แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น