หน้ากาก



ไอ้ชาติชั่วเกือบข่มขืนอ้อนสำเร็จ โชคยังดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพังประตูหอพักเข้ามาช่วยได้ทันเวลา แต่พวกเขาจับตัวมันไว้ไม่ทันเพราะมันปีนระเบียงห้องหนีไปได้

ตำรวจส่งตัวเธอไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียด ก่อนพาเธอไปให้ปากคำที่โรงพัก

ผลตรวจออกมาโอเค ตาขวาของเธอตอนนี้เขียวม่วงน่ากลัว มีรอยช้ำที่ลำคอ ต้นแขน และเข่า นอกนั้นเธอปลอดภัยดี พอมาถึงโรงพัก พวกเขาให้เธอนั่งรอในห้องสอบสวน ห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ มีเพียงโต๊ะเหล็กสีเทากับเก้าอี้สองตัว

อ้อนไม่อยากเชื่อเลยว่าจะเกิดเรื่องน่ากลัวแบบนี้ขึ้น เธอย้ายมาอยู่กรุงเทพหลังสอบติดคณะบริหารธุรกิจมหาวิทยาลัยชื่อดังในกรุงเทพ และเลือกเช่าหอที่ห่างมหาวิทยาลัยออกมาหน่อย แต่อยู่ใกล้กันกับสถานีตำรวจเพื่อความปลอดภัย ไม่น่าเชื่อว่าไอ้ชั่วนั่นจะกล้าปีนรั้วเข้ามาข่มขืนเธอถึงในห้อง

อ้อนนึกย้อนไปตอนเกิดเหตุ ภาพชายโฉดสวมหน้ากากสีขาวโพลนหน้ายิ้มปากกว้างจากหูถึงหูปรากฎขึ้นในความทรงจำ มันชกเธอเข้าที่ตาขวา แรงกระแทกทำเอาเธอล้มกระแทกพื้นรุนแรง มันกดเธอลงก่อนขึ้นนั่งคร่อม มือหยาบข้างหนึ่งบีบคอเธอรุนแรงทำเอาเธอหายใจไม่ออก ส่วนอีกมือลนลานถอดเข็มขัดแล้วปลดตะขอกางเกงตัวเอง 

เธอส่ายหน้าเร็วๆ ราวกับจะปัดภาพในหัวออกไปให้พ้นจากความคิด ตอนประตูห้องเปิดออกและชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามา เขาสวมชุดสูทสีเทาเข้มในมือถือแฟ้มหนังสีดำ 

"คุณเอมอรใช่ไหมครับ" 

อ้อนตัวเบาหวิว รู้สึกเหมือนมีผีเสื้อกระพือปีกอยู่ในท้องเป็นร้อยตัวตอนได้ยินเสียงทุ้มเอ่ยชื่อจริงของเธอ "เอ่อ.. ค่ะ" เธอตอบ ตายังมองใบหน้าหล่อเหลาราวเทพบุตรตรงหน้า

"ขอโทษนะครับที่ให้คุณต้องรอนาน เป็นยังไงบ้าง รู้สึกสงบขึ้นบ้างหรือยังครับ อยากดื่มอะไรไหม เดี๋ยวผมสั่งลูกน้องไปซื้อมาให้?" เขาพูดน้ำเสียงเข้าอกเข้าใจ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มมองตาเธอนิ่งนาน

อ้อนยืดหลังตรง พยายามตั้งสติ "ไม่เป็นไรค่ะ" 

"โอเค" เขาลงนั่งตรงข้ามกันกับเธอ "ผม จอมพล เจ้าหน้าที่สืบสวนคดี คุณพอจะเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ผมฟังได้ไหม ผมเข้าใจว่ามันอาจจะยาก ค่อยๆ เล่านะครับ ไม่ต้องรีบ" 

อ้อนเริ่มลำดับเรื่องราวน่าหวาดกลัวให้เขาฟังตั้งแต่ต้นจนจบ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นยังคงสดใหม่ในความทรงจำทำเอาร่างเธอสั่นเทาน้ำตาไหลพรากด้วยความกลัว

เจ้าหน้าที่จอมพลเห็นดังนั้น เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋ากางเกง แต่บังเอิญทำตกลงกับพื้น เขารีบหยิบมันขึ้นมาปัดฝุ่นสองสามทีแล้วส่งให้เธอ 

อ้อนมองเขาตัวสั่นเทิ้มก่อนเอื้อมมือไปรับผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดน้ำตาเงียบๆ

"เรามีผู้ต้องสงสัยสามคนรออยู่ที่ห้องชี้ตัว ถ้าเห็นคนร้ายอีกที คุณคิดว่าจะจำหน้ามันได้ไหมครับ?"

อ้อนส่ายหน้าเร็วๆ "มันใส่หน้ากาก ฉันไม่รู้หรอกค่ะว่าหน้าตามันเป็นยังไง"

เจ้าหน้าที่จอมพลพยักหน้าช้าๆ สีหน้าแสดงความเข้าอกเข้าใจ 

"ฉะ.. ฉันกลับบ้านได้หรือยังคะ?" อ้อนถามเสียงยังสั่น

"ครับ ถ้าจำหน้าคนร้ายไม่ได้ผมก็ไม่มีคำถามอะไรเพิ่มเติมแล้วล่ะ ไว้ทางเราได้เบาะแสอะไรเพิ่มเติมจะแจ้งไปนะครับ" เขาพูดเรื่อยๆ ก่อนลุกยืน

อ้อนแอบชำเลืองมองเขาเงียบๆ ใจเต้นไม่เป็นส่ำในอก ใบหน้าหล่อเหลาราวเทพบุตรหันมาทางเธอพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น "เดี๋ยวผมให้ลูกน้องไปส่งที่หอดีไหม?" 

อ้อนส่ายหน้า "ไม่เป็นไรค่ะ ฉันโทรให้เพื่อนมารับดีกว่า" 

เขาพยักหน้า "โอเคครับ งั้นผมขอตัวนะ" เขาพูดก่อนเดินออกจากห้องไป

ด้วยมือสั่นเทา อ้อนโทรหาเพื่อนให้มารับเธอที่โรงพัก
--
คืนนั้น อ้อนเก็บข้าวของจำเป็นใส่กระเป๋าแล้วไปพักค้างคืนห้องเพื่อน เช้าวันต่อมา เธอโทรหาเจ้าของหอเพื่อขอย้ายออกโดยไม่ขอมัดจำคืน ก่อนย้ายเข้าหอใหม่ที่ไกลจากสถานีตำรวจให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

เธอไม่ได้โกหกตอนบอกเจ้าหน้าที่จอมพลว่าคนร้ายใส่หน้ากากและเธอจำหน้าเขาไม่ได้ แต่เธอไม่ได้บอกเขาว่าตอนต่อสู้กับคนร้าย เธอเห็นไฝขนาดเท่านิ้วก้อยที่ต้นคอด้านขวาของมัน

ไฝแบบเดียวกันกับที่เธอเห็นบนต้นคอของเจ้าหน้าที่จอมพลตอนเขาก้มเก็บผ้าเช็ดหน้าในห้องสอบสวนเมื่อวาน

-- จบ --

**ไม่อนุญาตให้นำไปเผยแพร่โดยไม่ให้เครดิตผู้เขียน

**โดเนทสนับสนุนงานเขียน 



แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น