“เอาละ จำไว้นะ พ่อไม่อยากให้ลูกพูดกับลุงเขา นอกจากว่าตอนนั้นจะมีพ่ออยู่ด้วย”
“ครับ”
“พ่อพูดจริงนะ เอ้า สอดชายเสื้อเข้ากางเกงให้เรียบร้อย ลุงเขามาแล้ว”
ประตูหน้าเปิดออกและลุงเอกยืนตระหง่านอยู่ในกรอบประตู เขาเนื้อตัวเปียกโชกไปด้วยเหงื่อจากการทำงานข้างนอกในหน้าร้อน
“อากาศร้อนน่าดูเลยวันนี้” ลุงเอกพูด วางกระเป๋าเป้ลงบนพื้นก่อนนั่งลงถอดรองเท้า “ขอบใจนะที่ให้ฉันนอนค้างด้วยคืนนี้”
“เช้าแล้วก็รีบไปก็แล้วกัน” พ่อผมตอบเสียงเย็นชา
“แน่อยู่แล้ว.. ไหน..” ลุงเอกพูด ย่อตัวลงนั่งยองๆ กับพื้น “มากอดลุงหน่อยเร็ว ไม่ได้เจอกันตั้งนาน”
ผมก้าวไปทางลุงเอกสองสามก้าวแล้วเอนตัวไปกอด ลุงเอกสวมกอดผมแนบแน่นทำเอาผมรู้สึกไม่ค่อยสบายใจแปลกๆ
“อากาศร้อนจะตาย ใส่แขนยาวไปทำไมกันเนี่ย” เขาถามพลางดึงแขนเสื้อผมเบาๆ
“วันนี้ผมไม่ได้ออกไปข้างนอกเลยฮะ” ผมตอบตามที่ฝึกไว้
“นายไม่มีงานอะไรต้องกลับไปทำหรือไง” พ่อผมพูดขัดขึ้น
ผมรู้ว่านั่นเป็นคิวที่ผมต้องถือโอกาสแยกตัวออกไปจากลุงเอก เลยถือโอกาสรีบเดินกลับเข้าห้อง
กลางดึกคืนนั้น ผมนอนพลิกไปพลิกมาบนเตียงทำยังไงก็นอนไม่หลับตอนได้ยินเสียงฝีเท้าหนาหนักเดินเข้ามาใกล้ดังมาจากหน้าประตูห้อง หลังจากทุกอย่างเงียบสนิทอยู่สองสามวินาที ผมได้ยินเสียงประตูห้องค่อยๆ เปิดออก มีร่างเงาใหญ่ทะมึนเดินเข้ามาในห้องแล้วประตูปิดตามหลัง ทุกอย่างเงียบสนิทอยู่หลายวินาที มันเงียบมากจนผมเริ่มคิดว่าผมอาจจะฝันหรือจินตนาการทุกอย่างขึ้นมาเอง ตอนนั้นเอง ผมได้ยินเสียงหายใจแผ่วๆ ดังมากจากด้านหลัง เขายื่นมือลงมาแตะผม จากนั้นพลิกตัวผมนอนคว่ำแล้วเลิกชายเสื้อผมขึ้น ตอนนั้นผมแกล้งหลับแต่จากหางตา ผมเห็นสายตาของลุงเอกจ้องมองผม มือลูบหลังเปลือยเปล่าผมขึ้นลงช้าๆ แล้วจู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากห้อง
ผมนอนนิ่งอยู่ตรงนั้นสักพักแล้วเผลอหลับไปในที่สุด
พอผมตื่นเช้าวันรุ่งขึ้น ลุงเอกก็ออกจากบ้านไปแล้ว
สายวันนั้น หลังจากที่พ่อผมออกไปทำงาน โทรศัพท์บ้านผมดังขึ้น
“ฮัลโหล” ผมรับสาย
“ว่าไงหลานรัก”
“ลุงเอกเหรอฮะ”
“ใช่แล้ว พ่อหนูอยู่บ้านหรือเปล่า”
“ไม่อยู่ฮะ พ่อออกไปซื้อของข้างนอก”
“ดีๆ” ลุงเอกพูดเสียงสั่นนิดๆ เขาเงียบไปสักพักก่อนพูดต่อ “ลุงโทรมาเรื่องเมื่อคืน.. ลุงไม่รู้ว่าเราตื่นอยู่หรือเปล่า…”
“ผมตื่นอยู่ฮะ”
“งั้นลุงจะพูดตรงๆ ละนะ ลุงมีอะไรจะถาม และอยากให้เราพูดความจริงกับลุง”
“ครับ”
“เกิดอะไรขึ้น รอยช้ำตามตัวเราพวกนั้นน่ะ มันมาจากไหนกัน?”
(จบ)
0 ความคิดเห็น