แขก

 



ริสาเพิ่งคบกับวิทย์ได้ไม่นาน เธอพบกับเขาครั้งแรกเมื่อสองเดือนก่อนและเริ่มคบเริ่มคุยกันมาเรื่อย จนตกลงคบเป็นแฟนกันเมื่อเดือนก่อน


ไม่นานมานี้ ที่ทำงานของริสาขอให้เธอออกจากงานเพราะสภาพเศรษฐกิจที่ไม่สู้ดีนัก แน่นอนว่าบริษัทให้เงินชดเชยมาบ้างแต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร 


"ผมว่าสาย้ายมาอยู่กับผมดีกว่า จะได้ไม่ต้องเสียค่าเช่า" วิทย์พูดอ่อนโยน "ไม่ต้องคิดมากนะ ผมแค่อยากช่วย" 


ริสาคิดอยู่สองวันเต็มๆ ก่อนตัดสินใจรับข้อเสนอจะช่วยของแฟนหนุ่ม 


ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี หลังย้ายมาอยู่ด้วยกัน ริสาออกไปหางานทำหรือออกไปสัมภาษณ์งานบ้าง แต่หลักๆ แล้วเธอก็เสิร์ชหางานอยู่ที่บ้านอยู่ดูแลบ้านไปพลางขณะที่วิทย์ออกไปทำงานทุกวัน 


วันหนึ่ง มีเสียงกริ่งที่ประตูดังขึ้น 


"ใครนะ?" ริสาคิดในใจพลางเงยมองนาฬิกาบนผนังซึ่งบอกเวลาบ่ายสองโมงกว่าๆ ไม่ใช่วิทย์แน่ เพราะกว่าเขาจะเลิกงานก็เกือบหกโมงทุกวัน เธอเดินไปเปิดประตู


ที่หน้าประตู มีหญิงสูงอายุวัยราวๆ 60 กว่ายืนอยู่ เธอดูใจดี ผมสีดอกเลารวบเป็นมวยอยู่ด้านหลัง สวมเสื้อผ้าดูภูมิฐาน หิ้วกระเป๋าสะพายใบเขื่อง


"สวัสดีจ้ะ ป้ามาหาวิทย์" เธอพูดพลางยิ้มกว้าง


"เอ่อ.. วิทย์ไม่อยู่ค่ะ เขาไปทำงาน อีกหลายชั่วโมงกว่าจะกลับ ว่าแต่ มาหาวิทย์เรื่องอะไรเหรอคะคุณป้า" ริสาถามเรื่อยๆ ใจคิดว่าเธออาจจะเป็นเพื่อนบ้านที่เธอไม่รู้จักหรือเปล่า


"ป้าเป็นแม่ของวิทย์เขา นี่นั่งรถมาเยี่ยมเขาจากต่างจังหวัดตั้งหลายชั่วโมงแน่ะ จะว่าจะมาเซอร์ไพรส์ให้แปลกใจเล่น" หญิงสูงวัยพูดสีหน้าเสียดาย 


"สวัสดีค่ะคุณป้า หนูชื่อริสานะคะ" ริสารีบพูดพร้อมรอยยิ้ม "เข้ามารอในบ้านก่อนดีกว่าค่ะ อีกพักใหญ่ๆ วิทย์ถึงจะกลับ" 


หญิงสูงวัยยิ่งยิ้มกว้างกว่าเดิม "แหม.. ใจดีจริง ขอบใจมากนะหนู" ริสาเปิดประตูกว้างเปิดทางให้แม่ของวิทย์เดินเข้ามาข้างใน เธออาสารับกระเป๋าสะพายของแม่วิทย์มาถือไว้ ซึ่งมีน้ำหนักค่อนข้างมาก 'สงสัยคงหอบของฝากมาให้ลูกชายละมั้ง หนักน่าดู' เธอคิดก่อนปิดประตูตามหลัง แล้วเดินนำแม่ไปนั่งพักที่ห้องรับแขก 


"ว่าแต่ หนูเป็นใครกันจ๊ะ เป็นเพื่อนวิทย์เขาเหรอ?"


"เอ่อ หนูเป็นแฟนของวิทย์ค่ะ" ริสาหน้าแดง "พอดีหนูเพิ่งถูกบริษัทให้ออกจากงาน วิทย์เลยช่วยให้หนูย้ายมาอยู่ที่นี่ระหว่างหางานใหม่" พูดจบ ริสาเหลือบมองหน้าแม่ของวิทย์เพื่อหยั่งเชิง เกรงว่าแกอาจจะไม่พอใจที่ลูกชายอยู่กินกับผู้หญิงโดยไม่บอกให้แกรู้ แต่พอเห็นว่าแม่ของวิทย์ยังยิ้มกว้าง เธอก็ค่อยรู้สึกสบายใจขึ้นหน่อย


"เดี๋ยวคุณป้ารอแป้บนะคะ สาไปหาน้ำมาให้ดื่มค่ะ" เธอพูดก่อนลุกขึ้นเดินไปเปิดตู้เย็นในครัว 'แม่เค้ายิ้มเก่งเนอะ ยิ้มกว๊าง-กว้าง ยิ้มตลอดเชียว' ริสาคิด นั่นเป็นตอนที่วิทย์โทรเข้ามือถือเธอพอดี


"ฮัลโหล" เธอรับสาย

"สา วันนี้กินอะไรดี ไม่ต้องทำอาหารนะ เดี๋ยวเลิกงานแล้วผมจะซื้ออาหารเอง" เสียงวิทย์ร่าเริงมาตามสาย

ริสายิ้ม "จ้าา อารมณ์ดีตลอดเลยนะพ่อคุณ" เธอตอบก่อนนึกถึงใบหน้าเปื้อนยิ้มกว้างของแม่วิทย์ขึ้นมาได้ "เออวิทย์.. ตอนนี้แม่วิทย์อยู่กับสานะ" 

"อะไรนะสา" วิทย์ถาม

"แม่วิทย์เค้ามาเยี่ยม กะจะมาเซอร์ไพรส์วิทย์แหละ สาเลยให้เข้ามารอในบ้าน" สาพูดเรื่อยๆ

ปลายสายเงียบไปชั่วอึดใจก่อนวิทย์ตอบ "สา ออกมาเจอผมที่ป้ายรถเมลหน้าเซเว่นที"

ริสาขมวดคิ้ว "อ้าว เลิกงานแล้วเหรอ ให้ไปเจอกี่โมง?"

"ตอนนี้เลย ออกมาเลยนะ บอกแม่ไปว่าจะแว้บไปเซเว่นแป้บนึง" วิทย์พูดก่อนวางสาย


ริสารินน้ำเย็นใส่แก้วก่อนเดินกลับมาที่ห้องรับแขก "คุณป้าคะ สาออกไปเซเว่นแป้บนึงนะคะ เดี๋ยวมา" เธอพูดน้ำเสียงขอโทษขอโพย รู้สึกแย่ที่ต้องปล่อยให้แม่ของวิทย์อยู่บ้านคนเดียว หากแต่แม่ของวิทย์กลับยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิมเงียบๆ โดยไม่พูดอะไร 


ริสารู้สึกเย็นวาบที่สันหลัง ฟันของแม่วิทย์วาววับ เธอหยิบกระเป๋าสตางค์แล้วเดินออกจากบ้านมา


ระหว่างเดินไปเซเว่น วิทย์โทรเข้ามือถือเธอ น้ำเสียงร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด "สา ออกมาหรือยัง?!"


"ออกมาแล้ว ใกล้เซเว่นแล้วเนี่ย" เธอตอบ "แล้วนี่เป็นอะไร ทำไมน้ำเสียงแปลกๆ มีอะไรหรือเปล่า" เธอถามงงๆ รู้สึกไม่ค่อยสบายใจแปลกๆ ก่อนเกือบโดนมอเตอร์ไซค์ตำรวจที่วิ่งสวนทางกับเธอเฉี่ยวเอา


"สา.. แม่ผมตายไปหลายปีแล้ว ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่แม่ผม" เสียงเครียดดังมาตามสาย ริสารู้สึกมือเท้าเย็นวาบคล้ายจะเป็นลม


"ละ.. แล้วผู้หญิงในบ้านนั่น.. เป็นใคร?" เธอละล่ำละลัก ภาพรอยยิ้มกว้างผิดจริตปรากฎขึ้นในใจ รอยยิ้ม.. ที่ดวงตาเบิกโพลงไม่ได้ยิ้มไปด้วย


"ผมก็ไม่รู้ ตอนนี้เข้าไปรอวิทย์ที่เซเว่นก่อน รอตรงที่มีคนเยอะๆ ผมกำลังกลับ โทรแจ้งตำรวจแล้วด้วย" 


--


พอได้พบกับวิทย์ในที่สุดและเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรแจ้งวิทย์ว่าทางสะดวกแล้วและให้กลับมาที่บ้านได้ วิทย์กับสาพากันกลับมาที่บ้าน


ตำรวจบอกว่าตอนมาถึง พวกเขาพังประตูเข้าไปแล้วทั้งบ้านว่างเปล่า มีเพียงกระเป๋าสะพายใบใหญ่ที่พื้นข้างโซฟา


ด้านใน มีเชือก โซ่ มีด และค้อนเปื้อนเลือด


-- จบ --

สนับสนุนงานเขียน: โดเนท


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น