รักแท้

 


พ่อกับแม่ของเมย์คัดค้าน ตอนเธอพาสมชายมาพบพวกเขาที่บ้าน พวกเขาไม่เชื่อว่าสมชายจะรักลูกสาวของพวกเขาจริง 

สมชายไม่แปลกใจ พ่อแม่ที่ไหนจะไว้ใจ

ชายที่ยอมเป็นคนรักกับคนตาบอดอย่างเมย์ แต่เขาตัดสินใจแล้วว่าจะแต่งงานกับเธอ

ตอนพ่อของเธอบอกให้เขาออกไปรอข้างนอก สมชายโค้งคำนับอย่างนอบน้อมก่อนเดินออกจากห้องไปอย่างว่าง่าย แต่พยายามยืนใกล้รอยแยกประตูมากที่สุดเพื่อเงี่ยหูฟัง

“แน่ใจเหรอเมย์ ว่าเขาไม่ได้เข้าหาเพราะเรามีอันจะกิน?” พ่อถามน้ำเสียงจริงจัง 

ครอบครัวของเมย์ร่ำรวย พวกเขาเป็นเจ้าของอะพาร์ตเม้นท์หรูสิบชั้นในหลายย่านดังทั้งในกรุงเทพฯและปริมณฑล เมย์เป็นลูกสาวคนเดียว นั่นหมายความว่าในอนาคต เธอจะเป็นทายาทเพียงคนเดียวที่จะได้รับทรัพท์สมบัติทั้งหมด

"พ่อยังไม่ทันได้รู้จักสมชายดีก็จะดูถูกเขาแล้วเหรอ!" เมย์ตัดพ้อ

"แกอย่าหลงใครจนหน้ามือตามัว ที่พ่อพูดก็เพราะเป็นห่วง"

"เมย์จะแต่งงานกับสมชาย พ่ออย่าเสียเวลาห้ามเลย" เมย์เสียงแข็ง

"หมอนั่นเป็นคนแบบไหน แกรู้เหรอ?"

"หนูตาบอดแต่จิตใจปกติ หนูรับรู้ได้ว่าเขารักหนูจริง!" ดวงตาขาวขุ่นฉายแววน้อยเนื้อต่ำใจ "ตลอดหลายปีมานี้ เขาไม่เคยเปลี่ยนเลย"

พ่อของเธอถอนใจ "จะคบกันก็ตามใจ แต่เรื่องแต่งมันเรื่องใหญ่ แต่งไปแล้วคนแปลกหน้าอย่างไอ้หมอนั่นจะมีสิทธิ์ตามกฎหมายในทรัพย์สินของเราทันที" เขาส่ายหน้า "พ่อจะไม่ยอมให้ลูกต้องถูกเอาเปรียบหรอกนะ"

"พ่อไม่อยากให้หนูโดนเอาเปรียบหรือหวงสมบัติกันแน่?!"

"หุบปาก! จะไม่มีงานแต่งจนกว่าฉันจะแน่ใจในความบริสุทธิ์ใจของแฟนแกก่อน!" พ่อพูดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด

เมย์เข่าแทบทรุด "ยังไง.. เขาต้องทำยังไงพ่อถึงจะเชื่อใจเขา"

"ถ้ามันบริสุทธิ์ใจจริง ไม่ได้หวังจะฮุบสมบัติ ให้มันไปบริจาคดวงตาให้แกมั้ยล่ะ ระบุไว้ด้วยว่าเมื่อไหร่ที่มันตาย แกจะเป็นคนได้รับดวงตาของมัน ถ้ามันทำได้ ฉันจะยอมพิจารณาเรื่องแต่งงานของแก!" เขาพูดเสียงห้วนราวกับยื่นคำขาด

"พ่อ!" เมย์ตะคอกเสียงดัง

นั่นเป็นตอนที่สมชายเดินเข้ามาในห้องอีกครั้ง ดูเหมือนเขากำอะไรบางอย่างไว้ในมือ เขายื่นมันให้พ่อของเมย์

พ่อของเมย์ยื่นมือไปรับงงๆ ทั้งเขาและภรรยาพากันมองดูบัตรใบเล็กๆ 

มันคือบัตรอุทิศดวงตาจากศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย

"ผมเก็บบัตรนี่ไว้กับตัวมาตลอดสองปีแล้วครับ" เขามองพ่อของเธอด้วยดวงตาฉายแววมุ่งมั่น "ความกังวลของคุณพ่อ.. ผมเข้าใจดี แต่ผมรักเมย์จริงๆ ครับ"

พ่อกับเมย์สบตากันเงียบๆ

..

สมชายรู้ว่าการจะได้แต่งงานกับลูกเศรษฐีไม่ใช่เรื่องง่าย ดีหน่อยที่เมย์ตาบอด มันเป็นสิ่งที่เขานำมาใช้เป็นกลยุทธ์ได้ นั่นเป็นตอนที่เขาตัดสินใจไปทำการบริจาคดวงตาที่สภากาชาดไทย ที่จริง.. มันก็แค่บัตรใบเดียว ยังไงเสีย เขาก็ยังหนุ่ม ไม่ได้จะรีบตายไปไหน แต่ถ้ามองในอีกแง่มุมหนึ่ง มันเป็นเครื่องมือยืนยันความบริสุทธิ์ใจของเขาได้ดีทีเดียว

หลังงานแต่ง สมชายย้ายมาอยู่กับเมย์ในบ้านหลังใหญ่ที่ครอบครัวของเธอซื้อให้เป็นของขวัญแต่งงาน ไม่กี่เดือนต่อมา เขาได้รับความไว้วางใจให้เข้ารับตำแหน่งผู้จัดการดูแลโครงการทั้งหมดของครอบครัวภรรยา 

ชีวิตธรรมดาของเขาที่เคยต้องหาเช้ากินค่ำ ตอนนี้เปลี่ยนไปราวกับหน้ามือเป็นหลังมือ เขามีรถหรูและวิถีชีวิตมั่งคั่งสุขสบาย 

"วันนี้พี่กลับดึกหน่อยนะ มีประชุมที่สาขาต่างจังหวัดน่ะ" เขาพูดขึ้นตอนพวกเขานั่งทานมื้อเช้าด้วยกันที่โต๊ะอาหารขนาดสิบที่นั่งในห้องรับแขก วันนี้ป้าบัวแม่บ้านทำข้าวต้มหมูสับของโปรดของสมชายตามที่เมย์สั่ง

ดวงตาขาวขุ่นเงยขึ้นมองเขาก่อนพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม "ค่ะ ไม่ต้องห่วงเมย์นะ ป้าบัวก็อยู่ อ้อ.. ลืมไปเลย ไปหยิบถุงสีเขียวในตู้เสื้อผ้าให้เมย์หน่อยสิ"

สมชายลุกไปทำตามที่บอกอย่างว่าง่ายก่อนกลับมาที่โต๊ะ

"เปิดดูสิคะ" เมย์พูดยิ้มๆ

สมชายเปิดถุงสีเขียวขนาดใหญ่ออกดู ข้างในมีกระเป๋าเอกสารหนังแท้สีน้ำำตาลเข้มเงางาม เขาหยิบมันออกมาชื่นชม

"ใบเดิมใช้มาหลายเดือนแล้ว เมย์เปลี่ยนให้ใหม่นะ" ภรรยาสาวยิ้มกว้าง

สมชายพยักหน้ารับ "รู้ใช่ไหมว่าพี่รักเมย์" เขาพูดน้ำเสียงอ่อนโยน มันเป็นประโยคที่เขาพูดกับเธอทุกเช้าก่อนไปทำงาน

เมย์ยิ้มหวาน ดวงตาขาวขุ่นมองเขาอย่างรักใคร่

เขามองเมย์เงียบๆ ด้วยแววตารังเกียจ

..

"พี่.. เมื่อไหร่จะเลิกกับนังนั่งเสียที" ร่างบางที่นอนอยู่ข้างเขาบนเตียงถาม 

สมชายลูบผมของเธอ เขาเหลือบมองกระเป๋าเอกสารเงาวับใบใหม่ที่ตกอยู่บนพื้น "เลิกตอนนี้เราจะได้อะไร?" เขาโอบเธอเข้ามาใกล้อีกนิด "อยู่กันแบบนี้ พวกเราจะสบายไปตลอดชีวิตเลยนะ เมียพี่มันรวย แถมหลงพี่หัวปักหัวปำ กิจการทุกอย่างมันก็ให้พี่ดูแล"

"แต่แก้วอยากอยู่กับพี่" น้ำเสียงเว้าวอนทำเอาสมชายใจอ่อน

"รอก่อนนะ พี่เพิ่งแต่งกับมันได้ไม่ถึงปี จะลงมือทำอะไรตอนนี้มันจะเป็นพิรุธ" เขาพูดเรื่อยๆ 

 ..

สมชายดูแลกิจการเป็นอย่างดี ดูจากภายนอก เขาเป็นสามีผู้อุทิศตนให้กับภรรยาและครอบครัว แต่แท้ที่จริง เขามีบัญชีลับแยกต่างหากเพื่อยักยอกเงินบริษัททุกเดือนและมีแก้วเป็นเมียลับที่เขาแอบไปมาหาสู่อยู่บ่อยครั้ง

เช้าวันหนึ่งที่โต๊ะอาหาร เขาตักอาหารใส่ปากรีบๆ วันนี้ต้องรีบเคลียร์งานที่บริษัทให้เสร็จ เพราะช่วงบ่ายเขามี “ประชุมที่ต่างจังหวัด" 

เขาขมวดคิ้ว ข้าวต้มวันนี้รสชาติแปลกๆ เขารู้สึกเฝื่อนนิดๆ ในคอ คงเป็นเพราะเขากินแต่ข้าวต้มหมูมาตลอด แต่วันนี้มีข้าวต้มปลา “วันนี้ป้าบุญแกเปลี่ยนเมนูเหรอ ไม่ได้กินข้าวต้มปลามานานแล้ว ดีเหมือนกัน” เขาตักกินเรื่อยๆ

"วันนี้ป้าบุญแกไม่อยู่ค่ะ โทรมาบอกว่าไม่ค่อยสบาย ฉันเลยให้แกหยุดวันนึง"

"อ้าว นี่เมย์เป็นคนทำอาหารนี่เองเหรอ?" สมชายถามอย่างแปลกใจ

เมย์ยิ้มอ่อน "ใช่ค่ะ"

"ทำไมไม่บอกพี่ ทำเองทำไม เดี๋ยวไฟลวกขึ้นมาจะทำยังไง?" เขาพูดน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย 

เมย์ยิ้ม "เมย์อยากตอบแทน.. ที่พี่ดูแลและให้ความรักเมย์มาตลอด.."

สมชายรู้สึกชาๆ ที่แขนและขา 

"เมย์มีความสุขมาก.."

เขาพยายามขยับมือและเท้า แต่ก็ไร้ผล

"ถึงแม้ว่าทั้งหมดจะเป็นแค่เรื่องโกหกก็ตาม" เธอพูดเรียบๆ

สมชายเงยขึ้นมอง เมย์ลุกแล้วเดินเข้ามาใกล้ เธอถือบางอย่างในมือ เขาพยายามขยับหนีแต่ไร้ผล เธอสอดหูฟังไร้สายเข้าในสองหูของเขา ก้มลงมองมือถือ กดๆ สองสามที ก่อนเขาได้ยินเสียงคุ้นเคยผ่านหูฟัง..

**

"พี่.. เมื่อไหร่จะเลิกกับนังนั่นเสียที"

"เลิกแล้วเราจะได้อะไร?" อยู่กันแบบนี้ พวกเราจะสบายไปตลอดชีวิตเลยนะ เมียพี่มันรวย แถมหลงพี่หัวปักหัวปำ กิจการทุกอย่างมันก็ให้พี่ดูแล"

"แต่แก้วอยากอยู่กับพี่"

"รอก่อนนะ พี่เพิ่งแต่งกับมันได้ไม่ถึงปี จะลงมือทำอะไรตอนนี้มันจะเป็นพิรุธ"

**

เขาตาเบิกโพลง 

"พี่ไม่รู้สินะ ว่าตาของเมย์ไม่ได้บอดสนิทเสียทีเดียว" ดวงตาขาวขุ่นมองตาเขา "ไม่งั้นพี่คงระวังตัวมากกว่านี้เวลามองเมย์ด้วยความรังเกียจ"

ร่างของสมชายเอนไปด้านหลังพิงพนักเก้าอี้อย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ ริมฝีปากด้านหนึ่งตกน้อยๆ น้ำลายไหลย้อยลงคาง

"เมียพี่อาจจะตาบอดแต่จมูกยังใช้การได้นะ ทุกครั้งที่พี่มีประชุมต่างจังหวัดกลับมา เสื้อผ้าพี่มีกลิ่นน้ำหอมผู้หญิงอ่อนๆ" เมย์ถอนใจ “ปัญหาคือ มันไม่ใช่น้ำหอมที่เมย์ใช้”

เธอหยิบกระเป๋าเอกสารจากข้างตัวสมชาย จากนั้นหยิบอะไรบางอย่างเล็กจิ๋วทำจากพลาสติกรูปร่างกลมออกมาจากกระเป๋า 

“พี่คิดว่าไปไกลถึงต่างจังหวัด พูดอะไรแล้วฉันจะไม่ได้ยินสินะ” เธอพูดเรื่อยๆ “ตาฉันไม่ค่อยดีออกไปไหนลำบาก แต่เครื่องดักฟังนี่ช่วยได้มากเลย” เธอยิ้มกว้าง

สมชายตาเบิกโพลง เขาพยายามจะพูดแต่เสียงที่ออกมาเป็นเพียงเสียงอ้อแอ้ฟังไม่ได้ศัพท์

“ข้าวต้มปลาอร่อยมั้ยคะ?” เธอถามพลางวางมือจงบนไหล่สามี “ปลานี่พิเศษเลยนะ เมย์สั่งคนงานออกไปหาซื้อตั้งหลายที่กว่าจะได้มา” เธอพูด “ปลาปักเป้า..” 

“มันจะมึนๆ ชาๆ หน่อยใช่มั้ยพี่? ทนเอาหน่อยนะ พิษจากปลาปักเป้า มันจะขัดขวางการส่งสัญญาณจากเส้นประสาทไปยังกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อรวมถึงกล้ามเนื้อทางเดินหายใจของพี่จะอ่อนแรงและเป็นอัมพาตเฉียบพลัน..”

เธอโน้มตัวเข้าหาเขา ดวงตาขุ่นขาวใกล้กันกับดวงตาเขาไม่ถึงคืบ “อีกไม่นาน หัวใจพี่จะหยุดเต้น”

สมชายขยับตัวรุนแรงบนเก้าอี้ ปากทำเสียงขู่อู้อี้ไม่เป็นคำ 

เมย์เดินกลับไปนั่งบนเก้าอี้ตรงข้ามกับสามี สองแขนเท้าคางมองเขาด้วยดวงตาขาวขุ่นฉายแววรักใคร่ “พี่บอกรักเมย์ทุกเช้า   ความรักของพี่เมย์คงไม่มีวันตอบแทนได้หมด ขอบคุณนะพี่..สำหรับทุกอย่าง”

สมชายตาเหลือกเหลือแต่ตาขาว เขาดูเหมือนปลาขาดน้ำอ้าปากพะงาบๆ พยายามหายใจอย่างไร้ผล ใบหน้าของเขาเริ่มเขียว ดวงตายังคงเบิกโพลงตอนแน่นิ่งไปในที่สุด 

เมย์เดินไปปิดเปลือกตาเขาช้าๆ เธอไม่รู้ว่ารถร่วมสว่างจะมาถึงเมื่อไหร่ ต้องระวังหน่อย.. 

เธอไม่อยากให้เขาตาแห้ง

-- จบ --

**ไม่อนุญาตให้นำไปเผยแพร่โดยไม่ให้เครดิตผู้เขียน

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น