ผมเป็นนักประดาน้ำให้กลุ่มอาชญากรรม มีบางอย่างผิดปกติกับชุดนักประดาน้ำของเพื่อนผม (ตอนที่ 2)


 

ถ้าคุณสับสน คุณควรเริ่มอ่านตั้งแต่ต้น

ใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะตอนอ่านสิ่งที่โทมัสเขียน ผมเงยขึ้นมองสายตาวิงวอนของเขา

“ตกลงเพื่อน ฉันจะกลับขึ้นไปห้องควบคุม ดูสิว่าจะโทรหาเจ้านายพวกเราได้มั้ย” ผมพูด ใจหวังว่าเขาจะเข้าใจสิ่งที่ผมพยายามสื่อสาร

“โอเค ฉันจะรออยู่ที่นี่นะ”

ผมรีบวิ่งออกจากห้องเก็บของกลับไปห้องควบคุมใจเต้นแรง ลีกับเฮลีย์อยู่ที่นั่น “เรา..” ผมไม่รู้ว่าจะเริ่มอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นยังไง แต่เฮลีย์พูดขัดขึ้น

“โทมัสสื่อสารกับพวกเราตอนเราดึงเขาขึ้นจากน้ำ”

ผมชะงัก งงไปหมด “ว่าไงนะ? ยังไง? สื่อสารอะไร?”

เสียงทอมเดาะลิ้น ปกติทอมเป็นคนสุขุม มันแปลกที่เขาเดาะลิ้นแบบนั้น ฉันเลยลองฟังดูอีกครั้ง” เธอชี้ไปที่จอ “มันเป็นรหัสมอร์ส จอห์น ทอมเดาะลิ้นเป็นรหัสมอร์สพยายามสื่อสารกับเรา”

“เขาพูดว่าไง?” ผมถามรู้สึกเย็นวาบไปทั่วสันหลัง

ลีตอบแทนเฮลีย์ “อย่าดึงฉันขึ้นจากน้ำๆ” เขาสื่อสารประโยคนี้ซ้ำๆ ตลอดทางจนขึ้นมาถึงเรือของเรา เขาบอกให้เราทิ้งเขาไว้ใต้ทะเล”

“เราหวังว่านายจะบอกเราได้บ้างว่าเกิดอะไรขึ้น” เฮลีย์พูด “อะไรบางอย่างใต้น้ำทำเขากลัว”

ผมหายใจเข้าลึกๆ พยายามสงบสติอารมณ์ 

“ฉันว่ามีบางอย่างเลวร้ายเกิดขึ้นใต้น้ำ” ผมพูดในที่สุด “โทมัสบอกว่าเขาสบายดีแต่เขาเขียนนี่” ผมยื่นกระดาษแผ่นนั้นให้พวกเขาดู เฮลีย์หน้าซีดเผือด ลีขมวดคิ้ว ผมเห็นความกลัวแว่บผ่านดวงตาเขา

“นี่มันหมายความว่าไงกัน? มีอะไรบางอย่างในชุดประดาน้ำของเขาเหรอ?” ลีพูดงงๆ

“เขาพูดว่าสบายดีแต่ส่งข้อความนี้ให้นายงั้นเหรอ?” เฮลีย์พูด “เขาทำแบบนั้นเพื่ออะไรกัน?”

“ไม่รู้เหมือนกัน” ผมยอมรับ “ทุกอย่างมันไม่สมเหตุผลเอาเลย แต่ฉันว่าไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม เขาบอกเราออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ ลองคิดดูสิ เขาเขียนข้อความนี่ และเขาสื่อสารด้วยรหัสมอร์ส บางที.. บางทีอะไรบางอย่างอาจจะอยู่ในชุดนักประดาน้ำของเขาจริงๆ และถ้าเขาพยายามเตือนพวกเรา มันจะทำร้ายเขา”

ลีพ่นลมออกจมูก “นายฟังตัวเองพูดอยู่หรือเปล่าวะจอห์น? อะไรบางอย่างเข้าไปในชุดนักประดาน้ำงั้นเหรอ? นั่นมันหมายความว่าอะไรกันแน่?”

“ไม่รู้สิ” ผมพูด “บางทีเขาอาจจะ.. บ้าไปแล้วหรือเปล่านะ? อาจจะเกิดภาวะเมาไนโตรเจน”

เฮลีย์ส่ายหน้า “ภาวะเมาไนโตรเจนไม่ทำให้เกิดอะไรแบบนี้แน่”

“เราจะทำยังไงกันดี?” ลีถาม ยังคงแคลงใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมไม่โทษเขาหรอก ผมเองก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน นี่มันบ้าสิ้นดี

แต่ผมยังไม่ลืมน้ำเสียงของโทมัสก่อนวิทยุเงียบไป มันเหมือนกับว่าเขาได้เห็นอะไรบางอย่างน่าสะพรึงกลัว

“เอาไงดีพวกเรา?” ลีถามอีกครั้ง “เราเหลือเวลาอีกแค่สองชั่วโมงก่อนรัฐของจีนจะมาถึง”

“พาพวกเราไปจากที่นี่” เฮลีย์ตัดสินใจ “เรามีปัญหามากพออยู่แล้ว ไม่อยากต้องรับมือกับรัฐบาลจีนเพิ่มอีก ฉันกับจอห์นจะลองคิดหาทางแก้ปัญหาเรื่องทอมกันอีกที”

ลีมองผม จากนั้นเดินออกจากห้องควบคุมไปยังสะพานเดินเรือ ผมมองไปทางเฮลีย์ “เอาไงกันต่อดี?”

เฮลีย์ยักไหล่ “ไม่รู้สิจอห์น มีตัวอะไรเข้าไปในชุดประดาน้ำของทอมจริงๆ เหรอ? แล้วอะไรที่ทำให้เขาทำตัวแปลกๆ แบบนั้น?”

“นั่นสิ เสียงเขาก่อนวิทยุดับไปมัน.. ฟังดูเหมือนเขาไปเห็นอะไรน่ากลัวมา”

“ฉันก็ได้ยิน” เฮลีย์พูด “ฟังดูเหมือนเขากลัวบางอย่าง ฉันไม่เคยได้ยินน้ำเสียงทอมแบบนั้นมาก่อนเลย”

“เราจะมุ่งเข้าฝั่ง” เฮลีย์ตัดสินใจในที่สุด “เจ้านายเราจะบอกเองว่าต้องทำยังไงต่อจากนั้น ในตอนนี้เราต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับโทมัสเพิ่มเติม”

“งั้น.. เราจะเชื่อจริงๆ เหรอว่ามีอะไรบางอย่างอยู่ในชุดประดาน้ำของเขา?” ผมถามหวั่นๆ

เฮลีย์มองตาผมตรงๆ “เขา.. มีอาการทางจิต และจนกว่าเราจะได้รับความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ เราจะแกล้งเล่นตามน้ำไปก่อน” เธอพูดน้ำเสียงมั่นใจ แต่ผมจับแววความกลัวในดวงตาของเธอได้ เธอไม่แน่ใจในสิ่งที่ตัวเองพูดสักเท่าไหร่

----

พวกเราเดินลงไปที่ห้องเก็บสัมภาระ โทมัสยังคงนั่งอยู่ที่เดิม ตอนพวกเราเดินเข้าไป เขาเงยขึ้นมองพวกเราอย่างเร็ว ดวงตาเต็มไปด้วยความหวัง

ผมโบกกระดาษแผ่นหนึ่งที่ผมกับเฮลีย์เตรียมเอาไว้ก่อนมาที่นี่ในมือ มีข้อความว่า กำลังกลับเข้าฝั่ง มีความช่วยเหลืออยู่ที่นั่น มีปัญหาอะไร บอกที?

โทมัสกวาดตาอ่านข้อความในแผ่นกระดาษ เขาส่ายหน้า ผมวางกระดาษและดินสอตรงหน้าเขา

“พวกเราถูกเรียกตัวกลับเข้าฝั่ง” ผมพูด โทมัสพยักหน้า เขากำลังเขียนอะไรบางอย่าง

“ได้บอกพวกเขาหรือเปล่าว่าเราเก็บของที่ต้องการไม่ได้?” เขาพูดผ่านๆ พยายามพูดคุยอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ

“เปล่า” เฮลีย์ตอบ “เรายังไม่ได้โทรหาพวกเขา”

โทมัสเหลือบขึ้นมองเร็วๆ จากนั้นก้มลงเขียนต่อ จากนั้นเลื่อนมันผ่านมาให้พวกเรา ปากพูดว่า “ดีเลย อยากกลับขึ้นฝั่งจะแย่แล้ว”

บนกระดาษ โทมัสเขียนประโยคเดียวแล้วขีดเส้นใต้ซ้ำๆ หลายรอบ 

อย่าพาฉันกลับขึ้นฝั่ง

ผมเหลือบมองเฮลีย์ที่อยู่ข้างๆ

“โทมัส บางทีพวกเราควร..” ผมเริ่มพูด

ตอนนั้นเอง โทมัสชักกระตุก ก้มตัวไปข้างหน้าราวกับถูกชกเข้าที่ท้อง ผมออกตัวไปข้างหน้า จับไหล่เขาเพื่อประคองเขาเอาไว้ และบางอย่างขยับเขยื้อนข้างใต้มือผม

ด้วยพละกำลังน่าสะพึงกลัว แขนของโทมัสสะบัดงอไปข้างหลังออกห่างจากผมราวกับถูกแรงที่มองไม่เห็นดึงไว้ เสียงกระดูกหักเปียกๆ ดังขึ้นและแขนของเขางอเป็นมุมผิดธรรมชาติ

ผมอ้าปากค้างแล้วก้าวถอยหลัง โทมัสหันมามองผม ผมยืนนิ่ง

ตอนนี้ชุดประดาน้ำตรงจุดใกล้บ่าของเขาที่ผมเพิ่งจับเมื่อครู่โป่งสูงขึ้นมาเกือบสามนิ้วและส่ายไปมาเป็นคลื่น ผมถอยออกห่างด้วยความขยะแขยง

ก้อนเนื้อเต้นเป็นจังหวะเหมือนการเต้นของหัวใจก่อนจะหดกลับอย่างรวดเร็วเหมือนตอนที่มันโผล่ออกมา หน้าโทมัสซีดเผือดเขาใช้มือข้างเดียวที่ใช้การได้ของเขาเคาะบนข้อความ จากนั้นหยิบดินสอแล้วเขียนอีกข้อความหนึ่ง

ช่วยฉันด้วย

“พอ..เอ่อ.. พอใกล้ถึงฝั่งแล้วเราจะบอกนะ” เฮลีย์พูดตะกุกตะกักพลางถอยห่างจากโทมัส ผมถอยตาม ตายังมองงตาโทมัส เขาหน้าเหยเก จะด้วยความเจ็บปวดหรือความกลัว ผมเองก็ไม่รู้..

พวกเราออกมาถึงโถงทางเดินแล้วกระแทกประตูหนาหนักปิดตามหลัง

“นั่นมันตัวบ้าอะไรกัน?” เฮลีย์กระซิบ หน้าเธอซีดเผือด

“ไม่รู้สิ” ผมพึมพำใจเต้นแรงเร็ว “มี.. มีอะไรบางอย่างในชุดประดาน้ำของเขาจริงๆ ด้วย ฉันรู้สึกได้ตอนจับตัวเขา”

“ตัวอะไรจะทำแบบนั้นได้?” เฮลีย์ถามเสียงสั่น

“ฉันเองก็ไม่รู้”

“เอาไงกันดี?”

“เราไปบอกลี จากนั้น.. ค่อยคิดหาทางออก”

พวกเรามุ่งหน้าไปที่ดาดฟ้าและขึ้นไปบนสะพานเรือ ตอนนี้เป็นเวลากลางคืนแล้ว ลีออกเดินเรือมุ่งหน้าไปยังท่าเรือที่ใกล้ที่สุด เขามองมาทางเราตอนเราเดินเข้าไปหา

พวกเราเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ลีฟัง เขานิ่งฟังเงียบๆ

“งั้น.. พวกนายคิดว่ามีตัวประหลาดอยู่ในชุดประดาน้ำของเขาจริงๆ เหรอ?” เขาถามในทีสุด

“ใช่” ผมตอบ “พวกเราเห็นมัน มันขยับได้ ไอ้ตัวบ้านั่นมันขยับเขยื้อนได้ ลี มันหักแขนเขาตอนฉันแตะโดนมัน

ลีลงนั่งยองๆ ช้าๆ เอามือถูหน้าตัวเอง “แม่งเอ้ย.. แย่แล้วกู”

“นายคิดว่าไงลี?”

“จะยังไงก็ตามแต่ เราจะพาเขากลับเข้าฝั่งไม่ได้ เพราะงั้น.. เราต้องจัดการกับเรื่องนี้ที่นี่”

“เราต้องรู้ก่อนว่าตัวอะไรกันแน่ที่อยู่ในชุดของเขา” เฮลีย์พูด “ถ้าไม่รู้ก็ทำอะไรไม่ได้”

“แล้วจะทำยังไงถึงจะรู้ล่ะ?” ผมถาม “เราพูดกับมันไม่ได้  และโทมัสก็ทำได้แค่สื่อสารผ่านการเขียน ตอนนี้แขนเขาหักแล้วด้วย”

พวกเราเงียบกันไปพักใหญ่พยายามคิดหาทางออก ในที่สุดลีพูดขึ้น “ไม่มีทางอื่น ใครคนใดคนหนึ่งต้องถามเขา”

“นายคิดว่านั่นจะเป็นวิธีที่ดีเหรอ?” เฮลีย์ถาม “มันจะต้องมีเหตุผลที่เขาไม่ยอมพูดอะไรออกมาดังๆ”

“ฉันว่าไม่มีทางอื่น” ลีตอบ “เราต้องรู้ให้ได้ และการเขียนใส่กระดาษมันไม่พอแน่”

“แต่มันอาจเป็นเรื่องอันตรายนะ” เฮลีย์ค้าน

“ไอ้ตัวอะไรก็ตามที่อยู่ในชุดเขา ตอนนี้มันยังไม่ออกมาจากชุดนั่น บางทีมันอาจจะออกมาไม่ได้ไง บางทีมันอาจจะไม่ใช่เรื่องอันตรายหรอก อีกอย่าง ตอนนี้โทมัสตกอยู่ในอันตรายนะ เราต้องเสี่ยงลองถามเขาดู”

“แล้วถ้ามันหลุดออกมาได้ล่ะ?” ผมถาม

“พอฉันเข้าไปในห้องนั่น พวกนายปิดประตูล็อกฉันไว้ข้างในเลย พอปิดประตูแน่นหนาแล้วฉันจะถามเขา ถ้าฉันต้องหนีจะเคาะประตูเอา ถ้าฉันเคาะประตู แสดงว่ามันปลอดภัยพอที่จะเปิดประตูได้ เข้าใจนะ?” ลีพูดเสียงเครียด

“แล้วถ้ามันไม่ปลอดภัยที่จะเปิดประตูล่ะ?” ผมถาม

“งั้น.. ฉันก็ต้องเป็นคนรับมือเอง” ลีตอบพลางเลื่อนมือไปที่เข็มขัดที่มีซองปืนพกแนบอยู่

เฮลีย์วางมือบนไหล่ลี “นายแน่ใจนะ?”

“แน่นอน พวกเราต้องช่วยโทมัส แต่เราทำแบบนั้นไม่ได้ถ้าไม่รู้ว่ากำลังรับมือกับอะไรอยู่”

-----

พวกเราเดินลงไปที่ห้องเก็บสัมภาระ ใจผมเต้นแรงเร็ว ปากแห้งผากไปหมด เฮลีย์เองก็หน้าซีดเซียว ส่วนลีดูสงบสุขุมแต่ผมรู้ว่าลึกๆ แล้ว เขาเองก็กลัวมากพอๆ กันกับพวกเรา

พวกเราหยุดอยู่หน้าประตู “โชคดีนะ” ผมกระซิบ

“ไม่ต้องห่วงนะ” เขาพูดพลางยิ้มฝืน “เดี๋ยวฉันกลับมา”

เขาเปิดประตูหนาหนักแล้วก้าวเข้าไปข้างใน ผมเห็นโทมัสที่นั่งคอตกอยู่ข้างใน ลีมองพวกเราก่อนพยักหน้า ผมดันประตูปิดแล้วล็อก จากนั้นหันไปหาเฮลีย์

“เอาไงต่อดี?” เฮลีย์ถามเสียงแผ่ว

“ตอนนี้เราแค่ต้องรอ” ผมตอบ

-----

เราได้ยินเสียงลีพึมพำอยู่ข้างในแต่ไม่ชัดเจนนักเพราะประตูและผนังหนาหนัก จากนั้นมีเสียงลีร้องลั่นดังขึ้นมา เสียงของเขาบิดเบี้ยวด้วยความหวาดกลัวอย่างที่สุด มีเสียงเหมือนแรงกระแทกซ้ำๆ ครั้งแล้วครั้งเล่าทำเอาประตูห้องเก็บสัมภาระสั่น ฟังอยู่สักพักผมถึงรู้ว่านั่นคือเสียงลีทุบประตู

“เปิดประตู! ปล่อยฉันออกไปจากที่นี่!!”

เสียงตะโกนดังทะลุกำแพงโลหะ ผมเปิดประตูด้วยมือสั่นเทาและลีถลำออกมากระเสือกกระสนอยู่บนพื้น

ในห้อง ผมเห็นโทมัสแวบหนึ่ง เขาไม่ได้นั่งบนกล่องเก็บสัมภาระอีกต่อไปแล้ว เขาอยู่บนพื้นและผมร้องลั่นด้วยความสยดสยองเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขา

ทั้งร่างของเขาขยับเคลื่อนไหว ดิ้นบิดในแบบที่ร่างกายคนทำไม่ได้ รูปร่างของเขาแทบจะไม่เหมือนมนุษย์อีกต่อไป มันบิดเบี้ยวเต็มไปด้วยก้อนเนื้องอกใต้ชุดดำน้ำ แขนและขาบิดพลิกเป็นมุมผิดธรรมชาติ เสียงกระดูกแตกทำเอาผมคลื่นไส้

“ปิดประตู! ปิดเร็ว!!” เฮลีย์ตะโกนดึงผมจากภวังค์ ผมดันประตูเหล็กหนาปิดแล้วล็อก

ลีลุกยืน ตายังมองรอบตัวเลิ่กลั่ก เขาเดินเร็วๆ ผ่านพวกเราขึ้นบันไดไป

“ไม่ๆๆๆๆ ไม่นะ.. ไม่นะ.. ไม่” ผมพูดซ้ำๆ กับตัวเอง ยังเห็นภาพน่าสะพรึงกลัวในหัว 

เฮลีย์จับไหล่ผมแล้วเขย่าแรงๆ “จอห์น.. จอห์น! ตั้งสติก่อน!” 

“ไม่.. โอ้พระเจ้า.. ไม่..” 

เฮลีย์ตบหน้าผมอย่างแรง ความเจ็บแปลบเรียกสติผมกลับคืนมาอีกครั้ง ผมหันไปมองเฮลีย์ “เธอเห็นหรือเปล่า?” ผมถามเสียงสั่น

“ฉันไม่รู้ว่านายเห็นอะไร” เฮลีย์พูด “รัฐจีนขนส่งบ้าอะไรกันวะเนี่ย!”

“เธอหมายความว่ายังไง?” ผมถาม

“นายไม่เข้าใจหรือไง? เรือของรัฐจมทะเล พวกเขาไม่ได้ส่งทีมช่วยเหลือลงไปช่วยใคร แต่ดันส่งทีมกู้ของลงไปใต้น้ำภายในเวลาแค่สี่ชั่วโมง เรือเหยาไห่บรรทุกของบางอย่าง.. บางอย่างที่เป็นความลับและอันตราย และตอนนี้มันหลุดออกมาได้ และพอโทมัสลงไปกู้ของ.. เขาเจอมัน..”

ตอนนั้นเอง มีเสียงปังดังขึ้น ใจผมตกไปอยู่ที่ตาตุ่มตอนนึกขึ้นได้ว่าเป็นเสียงอะไร

นั่นเสียงปืน..

ผมรีบวิ่งขึ้นบันได เฮลีย์วิ่งตามมาติดๆ พวกเราหยุดกะทันหันตอนไปถึงดาดฟ้าเรือและเห็นสิ่งที่อยู่บนพื้น

ลีนอนอยู่บนพื้น มีเลือดไหลจากขมับ ชิ้นส่วนสมองสาดกระเด็นเต็มผนังข้างเขา ปืนหลุดจากมือตกอยู่บนพื้นข้างศพ

ผมทรุดลงบนพื้นอย่างไม่เชื่อตาตัวเอง เฮลีย์วิ่งไปอ้วกลงทะเล

ผมหัวหมุนตื้อไปหมด พยายามเข้าใจสิ่งที่เห็นตรงหน้า ทันใดนั้นเอง เสียงฝีเท้าหนักๆ ย่ำขึ้นบันไดตามมา ผมหันไปทางต้นเสียงใจเต้นไม่เป็นส่ำ

ร่างใหญ่ปรากฎขึ้น มันเคลื่อนที่คลานบนขาไม่สมประกอบ ลากตัวเองด้วยแขนแหลกเหลว ทั้งร่างบิดพลิกเป็นจังหวะเหมือนจังหวะการเต้นของหัวใจอยู่ใต้ชุดนักประดาน้ำหนาหนัก

มันอ้าปาก และเสียงแหบพร่าปนสำลักน่าขยะแขยงเล็ดลอดออกมา

"โจ...นา...ธาน..."


โทมัสหลุดออกมาได้


******* โปรดติดตามตอนต่อไป *******


ตอนที่ 1

Final

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

❤️ โดเนท: ถ้าเพื่อนๆ​ รักชอบอ่านเรื่องแปลแปลกๆ  หลอนๆ แบบนี้​ ช่วยโดเนทเป็นกำลังใจให้แอดด้วยน้าาา​ ทุกบาททุกสตางค์​จะช่วยซื้อเวลาให้แอดได้สรรหา, พูดคุยกับเจ้าของเรื่อง, และทำการแปลเรื่องน่ากลัวๆ​ แบบนี้ได้มากขึ้นค่ะ​และได้เรื่อยๆ ค่ะ 😊 (โดเนทที่นี่)


❤️❤️ Credit: Thank you Drunkenswordman, the author of the original story. You are awesome! :)


ปล. อย่าลืมแวะมาช้อปกระเป๋านอนไม่หลับน่ารักๆ ไปใช้กันนะค้าาา แอดวาดเองทุกภาพ รับประกันความน่ารักค่ะ :) 

ภาพสินค้าจริง

ภาพสินค้าจริง

กระเป๋าผ้านอนไม่หลับ

❤️ ขนาด 15x12.5 นิ้ว ราคา 250 บาท (ส่งฟรี)

มี 6 แบบให้เลือก:


สั่งซื้อแอดไลน์: @909rbslp (มี "@" ด้วยนะคะ)




แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น