ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่เดี๋ยวนี้ฉันจะถามแพนโดร่าว่าเธออยากจะดูหนังด้วยกันไหม เธอดูแปลกใจ "อย่าหลงคิดว่าฉันเป็นมนุษย์อย่างเธอนะ แต่ฉันว่าก็ดีเหมือนกัน"
พวกเราดูหนังด้วยกันในห้องรับแขก แพนโดร่าทำเสียง "โอ้โห.." และ "หูย.." กับทุกอย่างที่ดู นั่นเป็นตอนที่ฉันนึกขึ้นมาได้ว่าคงไม่เคยมีใครสนใจว่าเธอจะสนใจอยากเห็นโลกยุคนี้บ้างหรือเปล่า
หลังจากที่ฝันเห็นอดีตที่น่าสงสารของเธอ ฉันได้เห็นภาพอดีตของเธอกับเจ้าของฟาร์มคนเก่าบ้างเป็นบางครั้ง ลูเป็นเพียงคนเดียวที่เคยอาศัยอยู่ที่นี่อย่างสงบกับแพนโดร่า แต่เขาไม่เคยปฎิบัติกับเธอเหมือนอย่างที่ฉันทำ
บางทีฉันอาจจะโง่เง่าไปเอง แต่ฉันไม่ชอบความคิดที่ว่าเราต้องยอมทนกันและกันในบ้านหลังนี้
หลังจากวันนั้น แพนโดร่าเริ่มใช้เวลาดูหนังทุกเรื่องที่ฉันหามาให้เธอดูได้ และเธอชอบทุกอย่างที่ดูไม่ว่ามันจะน่าเบื่อแค่ไหนก็ตาม
ในเมื่อเธอไม่จำเป็นต้องนอนเหมือนมนุษย์เรา จะกินก็แค่ไก่สดวันละสองตัว แถมไม่มีหน้าที่ต้องทำความสะอาดบ้านหรืออะไรพวกนั้น เธอดูหนังเรื่องต่อเรื่องไม่หยุด หลังจากมื้อเย็น เรานั่งดูหนังด้วยกันทุกวันและ แพนโดร่าออกความเห็นเกี่ยวกับหนังแต่ละเรื่องให้ฉันฟังเพลินๆ
"แพนโดร่า"
"ว่าไง?"
"ฉันรักเธอและเธอเป็นเพื่อนรักของฉัน"
แพนโดร่าหัวเราะ "โอเคยัยเนิร์ด แต่เธอก็มีฉันเป็นเพื่อนแค่คนเดียวนี่นา เพราะเธอมันขี้เหงาแถมน่าเบื่ออีกต่างหาก"
ฉันหัวเราะตาม
"ขอถามอะไรหน่อยได้หรือเปล่า?"
แพนโดร่าพยักหน้า
"จะเกิดอะไรขึ้นถ้าวันหนึ่งฉันเกิดแต่งงานและมีลูก?"
"เธอก็จะน่าเบื่อยิ่งกว่าเดิมไง"
"ฉันหมายถึงที่บ้านนี้น่ะ" ฉันถามย้ำ
อย่างแรกเลย เวลาออกไปข้างนอกเธอเอาแต่ใส่ยีนส์แบบนี้ เพราะงั้นความคิดที่ว่าเธอจะมีแฟนมันไม่ค่อยจะมีหวังสักเท่าไหร่" แพนโดร่ายิ้ม "แต่ฉันว่าเธอควรจะขายบ้านนี้ซะ เพราะฉันเป็นปีศาจที่ไม่มีใครควบคุมได้ ฉันรับปากไม่ได้หรอกนะว่าจะไม่ทำร้ายใคร มันขัดกับธรรมชาติของปีศาจน่ะ"
"แล้วเธอจะอยู่โดยไม่มีฉันได้หรือเปล่า?" ฉันถามอย่างเป็นห่วง และแพนโดร่าหัวเราะอีกครั้ง
"ยัยบ้า ฉันอยู่ที่นี่มาตั้งแต่รุ่นยายทวดเธอยังเป็นเด็กทารกอยู่เลย และฉันจะยังคงอยู่ที่นี่ต่อไปชั่วกาล แต่เพราะเธอ ฉันจะเพิ่มกฎข้อสี่ให้เจ้าของบ้านคนต่อไป นั่นคือให้สมัครเน็ตฟลิกให้ฉันไม่อย่างนั้นตาย"
***
พวกเราไม่ได้คุยลงรายละเอียดเกี่ยวกับอดีตของแพนโดร่าเพราะฉันไม่อยากให้เธอต้องเสียใจและไม่อยากเสียมารยาท มันคงยากมากอยู่แล้วที่เธอยอมแบ่งปันความทรงจำพวกนั้นกับฉัน
ตามที่ปีศาจประหลาดนั่นบอกเธอ ฉันเดาเอาว่ากลิ่นเหม็นเน่าหมายถึงเธอสร้างปู่และพี่ชายขึ้นมาใหม่แล้วซ้อมพวกนั้นจนตายอีกครั้ง แต่ฉันไม่แน่ใจว่ายังไงหรือว่าเธอเก็บศพพวกเขาไว้ที่ไหน เดาว่าเธออาจจะฝังพวกเขาไว้ในฟาร์มเพราะเล็บเธอมักจะเปื้อนโคลนเสมอ
ฉันซื้อรองเท้าคู่ใหม่ให้เธอด้วย และรอโอกาสที่จะเอาให้เธอ ตอนนี้ฉันเริ่มตกแต่งห้องนอนห้องที่สามด้วยเงินเก็บที่ฉันมีเพราะอยากจะใช้มันเป็นห้องแต่งตัวแบบหรูหราหน่อย แพนโดร่าจะได้รู้สึกดีขึ้น
และเพื่อกันไม่ให้คนบริสุทธิ์ต้องถูกแพนโดร่าทำร้ายอีก ฉันติดป้าย "เพื่อความปลอดภัยของคุณเอง อย่าเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต บ้านหลังนี้อาจทำร้ายคุณ กดกริ่งหรือถ้ากริ่งเสียให้โทรเบอร์ xxxxxxxxx" บนรั้ว
ส่วนลูกพี่ลูกน้องที่น่าสงสารของฉัน ฉันโทรหาแม่เพื่อถามถึงเธอ โชคดีที่แรงกระแทกที่หัวไม่ใช่เรื่องร้ายแรงและเธอจะดีขึ้นในอีกไม่กี่อาทิตย์
คืนนั้นฉันสะดุ้งตื่นด้วยเสียงเหมือนรถถังชนเข้ากับผนังบ้าน
"ตายห่าแล้ว นั่นมันกองทัพผู้พัน!” เสียงผีขี้เล่นดังขึ้นข้างหูฟังดูเป็นกังวล “ขออภัยที่พูดไม่เพราะครับคุณผู้หญิง กรุณาอยู่นิ่งๆ เงียบๆ นะครับ ”
"พวกเราต้องไปก่อนแล้วคุณเมลินด้า คราวนี้ทุกคนต้องไปช่วยนายหญิง" เสียงผีคุณยายพูดเบาๆ จากนั้นตะโกน "สตูผีมีแต่หัว, ลินดาไร้ขา, ผีหน้าไหม้ พวกเธอไปทำหน้าที่กันได้แล้ว"
***** โปรดติดตามตอนต่อไป *******
-------------------------------------------------------------
Credit: https://www.reddit.com/r/PPoisoningTales
0 ความคิดเห็น